ผลงานศิลปะเด็กที่นำมาให้ชมในวันนี้ เป็นการพิมพ์ภาพ รวมทั้งการใช้นิ้วแต้ม ลากเส้น หรือใช้พู่กันจุ่มสีเพ้นท์ลงบนเนื้อผ้าหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นผ้าเช็ดหน้าทำจากฝ้าย ผ้ากำมะหยี่ ผ้าสักหลาด แม้กระทั่งเสื้อยืด กางเกงขาสั้น หรือหมวก ตลอดจนการทำเครื่องประดับอย่างโบว์ติดผม ทั้งหมดนี้เป็นผลผลิตจากการสอนศิลปะแก่เด็กๆ ของผู้เขียนเอง จึงจะขอรวบรวมมาไว้ ณ ที่นี้ เพื่อเป็นไอเดียสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองหรือครูที่ต้องการสนับสนุนให้เด็กๆ ได้มีประสบการณ์ในการสร้างสรรค์งานศิลปะและงานประดิษฐ์ที่ใช้ผ้าเป็นหลัก

ผลงานข้างบนนี้เป็นของน้องเวฬา ชั้นเนิร์สเซอรี รร.เทพนารี จ.แพร่ เป็นการพิมพ์ภาพลงบนผ้าเช็ดหน้า โดยผืนแรก ครูใช้ขนนกทาสีอะครีลิคจนชุ่ม แล้วนำไปวางทับบนผ้าเช็ดหน้า จากนั้นให้น้องเวฬาใช้มือช่วยกดขนนกจนสีติดลงบนผ้า ซึ่งมือเล็กๆ ของน้องยังกดสีได้ไม่ทั่วถึง ครูจึงต้องช่วยกดด้วยเพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์ ส่วนผ้าเช็ดหน้าอีกผืน ครูนำแถบสำหรับตกแต่งริมหรือชายเสื้อ มาทาสีอะครีลิค แล้วให้น้องเวฬาใช้นิ้วมือกดลงไปจนสีติดบนผ้าเช่นเดียวกัน สำหรับผืนผ้ากำมะหยี่สีเขียวเข้มนั้น ครูให้เวฬาใช้นิ้วมือจุ่มสีอะครีลิค แล้วครูช่วยจับนิ้วน้องมาแต้มลงบนผืนผ้า ให้เป็นรูปพุ่มไม้ที่มีหลายสีสลับกัน ช่วงหลังๆ น้องเริ่มเข้าใจวิธีการแต้มสีมากขึ้น จึงสามารถทำได้เองเป็นบางจุด งานทั้งสามชิ้นนี้เมื่อวางรวมกันแล้ว ก็มีสีสันและลวดลายเข้ากันสวยงามไปอีกแบบ

งานชิ้นนี้เกิดขึ้นเพราะครูมีผ้ากำมะหยี่ที่ไม่ได้ใช้อยู่หลายสี จึงเลือกผ้าสีน้ำเงินเข้มเหมือนท้องฟ้ายามค่ำคืน มาให้น้องเวฬาได้ใช้นิ้วแต่งแต้มสีทอง สีเหลืองประกาย และสีเงินลงไป ให้เป็นดวงดาวที่ส่องแสงระยิบระยับบนผืนฟ้าสีน้ำเงิน ^^ ที่เป็นดวงดาวกลมๆ นั้นคือรอยนิ้วมือของน้องเวฬานั่นเอง ^^ ส่วนรูปดาวห้าแฉกสีทอง และพระจันทร์เสี้ยวสีเหลืองจางนั้น ครูช่วยวาดเสริมให้ เพื่อให้รูปนี้มีเรื่องราว และมีความสวยงามมากขึ้น กรอบรูปที่เห็นนี้ แต่เดิมเป็นสีขาว ครูจึงใช้สเปรย์อะครีลิคสีเงินพ่นลงไป ให้ดูสวยงามเข้ากับผืนผ้าที่เป็นรูปท้องฟ้ากลางคืน ดูภาพนี้แล้วนึกถึงเพลงที่ครูชอบเอามาสอนเด็กๆ ร้องกัน คือ Twinkle, Twinkle Litttle Star ขึ้นมาเลยทีเดียว ^^

งานชิ้นนี้ ครูยังคงให้น้องเวฬาได้พิมพ์ภาพลงบนพื้นผิวที่แตกต่างหลากหลาย โดยคราวนี้เป็นผ้าสักหลาก (felt) สีดำ ครูนำแกนกระดาษทิชชู่มาตัดตรงปลายให้เป็นเส้นเล็กละเอียด เมื่อจับเส้นเหล่านี้ให้กระจายออกจากแกนวงกลมก็จะได้รูปทรงคล้ายดอกไม้บาน จากนั้นครูทาสีเพ้นท์ผ้าที่มีประกายชิมเมอร์ลงบนแกนกระดาษทิชชู่ที่ถูกตัดเป็นเส้น แล้ววางลงบนผืนผ้าสักหลาด โดยให้น้องเวฬาออกแรงกดเพื่อให้สีติดบนผ้า เป็นการฝึกกล้ามเนื้อมือ ซึ่งก็ต้องทาสีที่แกนกระดาษทิชชู่และกดทับลงบนผ้าซ้ำหลายครั้งกว่าสีจะติดดี ขั้นสุดท้าย ครูใช้พู่กันจุ่มสีลากเส้นทับลงบนภาพที่พิมพ์ไว้แล้ว เพื่อให้มองเห็นชัดเจนว่าเป็นรูปพลุหรือดอกไม้ไฟบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ปิดท้ายด้วยการใช้พู่กันจุ่มสีทองและเงินจุดลงไปเป็นรูปดวงดาว ^^ ก็เป็นอีกหนึ่งชิ้นงานที่ครูออกแบบมาให้น้องเวฬาได้ฝึกการใช้มือ ซึ่งสามารถเก็บใส่กรอบไว้ให้หนูดูตอนโต ว่านี่คือการทำงานศิลปะครั้งแรกๆ ของชีวิต หวังว่ามันจะเป็นแรงบันดาลใจให้หนูรักการใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ต่อไปในอนาคต ^^
งานชิ้นนี้ครูเตรียมเสื้อยืดตัวเล็กสีขาวไว้ เพื่อให้น้องเวฬาได้ลองพิมพ์ภาพลงบนเสื้อผ้าเป็นครั้งแรก โดยใช้แผ่นผ้าสักหลาดและสติกเกอร์โฟมรูปตัวแมลงต่างๆ (มีขายในร้านกิฟท์ช็อป สำหรับใช้ในงานตกแต่ง) ครูทาสีเพ้นท์ผ้าลงไปบนตัวแมลง โดยใช้หลายสีสันสลับกันตามส่วนต่างๆ ของตัวแมลง จากนั้นวางตัวแมลงที่ชุ่มสี คว่ำลงบนเสื้อยืด แล้วให้น้องเวฬาใช้มือกดลงไป ด้วยความที่มือน้องเล็กมากและยังไม่ค่อยมีแรง ครูก็ช่วยกดให้สีบนตัวแมลงติดลงบนเสื้อยืดอย่างทั่วถึง เพื่อให้ภาพออกมาสมบูรณ์ เมื่อพิมพ์ภาพเสร็จแล้ว ครูใช้พู่กันแต้มสีเข้มเป็นจุดกลมๆ เพื่อเป็นดวงตาของแมลง สรุปว่างานนี้เวฬาได้เรียนรู้เรื่องสีต่างๆ ได้ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก และที่สำคัญ หนูสามารถออกเสียงและจำชื่อแมลงได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเต่าทอง ผีเสื้อ ผึ้ง และแมงปอ แถมยังได้เสื้อยืดลายน่ารักกลับไปใส่ที่บ้านอีกตัวหนึ่งด้วย ^^

 

เสื้อยืดสีฟ้าข้างบนนี้เป็นผลงานของน้องก้อง ชั้นป.2 รร. มารดาอุปถัมภ์ จ.แพร่ ครูได้เสื้อยืดสีฟ้ามาหนึ่งตัว และสติกเกอร์โฟมรูปเด็กชายและสัตว์ต่างๆ จึงให้น้องก้องใช้สีเพ้นท์ผ้าทาลงบนรูปสัตว์ แล้วใช้มือกดให้สีติดลงบนเสื้อยืด ทั้งนี้ครูต้องช่วยกดด้วยอีกแรงเพื่อให้สีติดสม่ำเสมอ แต่กระนั้นรายละเอียดต่างๆ ในภาพก็ยังไม่ติดบนเสื้อยืดทั้งหมด สุดท้ายครูจึงต้องช่วยอีกที เพื่อให้ได้เสื้อยืดลวดลายสมบูรณ์กลับไปใส่ที่บ้าน ด้วยการใช้พู่กันแต้มสีเติมแต่งรายละเอียดในภาพให้ครบถ้วนเหมือนกับภาพต้นแบบในสติกเกอร์โฟม ที่ต้องทำเช่นนี้เพราะเกรงว่าเวลาใส่เสื้อตัวนี้ออกไปไหนแล้ว คนที่เห็นอาจดูไม่รู้เรื่องหรืองงว่ามันเป็นตัวสัตว์อะไรกันแน่ ;-D สุดท้ายงานนี้ก็ออกมาดูชัดเจนและน่ารักไม่เบา ^^
งานเพ้นท์เสื้อยืดข้างบนนี้ เคยเป็นของน้องเนเน่ ชั้น ป.4 รร.เทพนารี จ.แพร่ น้องเนเน่เคยได้ช่วยออกแบบรูปขนมบนเสื้อยืด แต่ไม่ทันได้เพ้นท์เสร็จ ก็มีเหตุให้เลิกเรียนไปก่อน ครูจึงนำงานชิ้นนี้มาให้น้องพลอย ชั้น ป.3 รร.เมธังกราวาส จ.แพร่ ทำต่อ ซึ่งพลอยก็เต็มใจอยากทำ ทั้งครูและนักเรียนตัวน้อยจึงต้องช่วยกันเพ้นท์ต่อจนเสร็จ ^^ (หากไม่ช่วย ให้น้องทำเอง จะต้องใช้เวลามาก เพราะเป็นงานละเอียด จะไม่สามารถสรุปชิ้นงานนี้ได้ตามเวลาที่กำหนด) ทั้งนี้ครูช่วยเก็บรายละเอียดขั้นสุดท้ายให้อีกที เพื่อให้น้องพลอยสามารถนำเสื้อตัวนี้ไปสวมใส่ได้สวยงามแบบไม่อายใคร ^^
งานพิมพ์ภาพบนกางเกงขาสั้นสีขาวด้านบนนี้เป็นน้องขวัญ ชั้นเนิร์สเซอรี รร. อบต. หนองน้ำรัด จ.แพร่ ครูใช้แผ่นสติกเกอร์โฟมรูปแมลงและดอกไม้ ทาสีเพ้นท์ผ้าลงไปบนรูปแมลง แล้วให้น้องขวัญใช้มือกดแผ่นโฟมลงบนกางเกง ส่วนไหนที่น้องขวัญออกแรงกดเบาไป หรือไม่สม่ำเสมอ ครูก็ช่วยกดซ้ำให้ เพื่อให้ได้รูปที่สมบูรณ์ เมื่อสีแห้งดีแล้ว ครูใช้ริบบิ้นสีบานเย็นเย็บติดลงไปตรงเอวกางเกง เพื่อให้สามารถผูกเป็นโบว์ที่สวยงามได้ ก็เป็นอีกหนึ่งชิ้นงาน ที่นอกจากจะได้ฝึกการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก การเล่นสี และการเรียนรู้รูปทรงของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติแล้ว ยังได้กางเกงไปใส่เก๋ๆ อีกหนึ่งตัว ^^
งานเพ้นท์ผ้าเช็ดหน้าด้านบนนี้ เป็นของน้องก้อง ชั้นป.2 รร.มารดาอุปถัมภ์ จ.แพร่ เป็นการเพ้นท์ด้วยมือตัวเองเป็นครั้งแรก (ก่อนหน้านี้น้องได้พิมพ์ภาพลงบนเสื้อยืด) ก้องยังไม่มีไอเดียว่าจะถ่ายทอดเรื่องราวอะไร ครูจึงออกแบบให้ก่อน โดยคิดธีมป่าในฤดูใบไม้ร่วง เพราะผ้าเช็ดหน้าเป็นสีเหลือง จึงน่าจะเข้ากับลวดลายป่าไม้ที่มีสีโทนอุ่น อย่างเหลือง ส้ม แดง เขียวอมเหลืองได้อย่างดี ครูให้ก้องดูตัวอย่างภาพสัตว์น่ารักหลายชนิด ซึ่งก้องเลือกมาสามตัว คือกระรอก จิ้งจอก และกวางน้อย ^^ จากนั้นครูใช้ดินสอร่างภาพลงบนผ้าเช็ดหน้า โดยเริ่มจากรูปต้นไม้และสัตว์ จากนั้นก็ให้ก้องลองร่างภาพสัตว์เองด้วย จุดไหนที่เบี้ยวหรือไม่สมบูรณ์ครูก็ช่วยเติมแต่งให้ ขั้นสุดท้ายครูให้น้องใช้พู่กันจุ่มสีเพ้นท์ผ้า แล้วชี้บอกจุดให้ว่าสีไหนเพ้นท์ลงตรงไหน และมีวิธีปาดพู่กันอย่างไร ตลอดจนวิธีการไล่สีให้กลมกลืนกัน จุดที่ยากสุดก็คือลำต้นของต้นไม้ใหญ่ ที่ต้องมีการใช้แสงเงา มีด้านมืด ด้านสว่าง และต้องเพ้นท์ให้เป็นคลื่นๆ เหมือนเปลือกไม้ด้วย งานชิ้นนี้ใช้เวลาเรียนถึงสามครั้งกว่าจะทำสำเร็จ ก็ถือเป็นอีกงานที่ก้องชอบและภูมิใจมาก ^^

งานพิมพ์ภาพลงบนหมวกสีเหลืองข้างบนนี้เป็นของน้องขวัญ ชั้นเนิร์สเซอรี รร. อบต.หนองน้ำรัด จ.แพร่ ครูใช้แผ่นสติกเกอร์โฟมรูปสัตว์ทะลและนางเงือก ซึ่งเป็นตัวละครที่เด็กผู้หญิงชอบมาก ^^ ใช้สีเพ้นท์ผ้าทาลงบนแผ่นโฟม แล้วให้น้องขวัญใช้มือกดจนสีติดลงบนหมวก ปัญหาคือแม้จะกดทับลงไปหลายครั้ง ก็ยังมองไม่เห็นรายละเอียดของตัวนางเงือกและสัตว์น้ำได้ชัดเจนโดดเด่นเท่าไหร่นัก สุดท้ายครูจึงต้องใช้พู่กันจุ่มสีเพ้นท์ผ้าแต่งเติมรายละเอียดซ้ำลงไปเพื่อให้ได้รูปภาพที่สมบูรณ์ จากนั้นครูใช้กระดุมหลากสีเย็บติดลงบนหมวกด้วยเพื่อให้มีรายละเอียดมากขึ้น จากหมวกธรรมดาๆ ก็กลายเป็นหมวกแฟชั่น ที่เล่าเรื่องราวของเมอร์เมดในโลกใต้ทะเลได้เก๋ไก๋ไม่เบาเลยทีเดียว ^^

งานเพ้นท์ผ้าเช็ดหน้าข้างบนนี้ ครูให้น้องขวัญใช้นิ้วจุ่มสีแล้วลากเป็นเส้นหรือแต้มเป็นจุดๆ ลงบนผ้าเช็ดหน้า น้องยังใช้นิ้วได้ไม่ดีนัก เพราะกล้ามเนื้อมัดเล็กยังไม่พัฒนาเต็มที่ หากให้แต้มสีเป็นจุดจะทำได้ดีเพราะค่อนข้างง่าย แต่ถ้าให้ลากเป็นเส้นตรงหรือเส้นโค้ง การวางนิ้วจะไม่ค่อยมั่นคง ทำให้เส้นที่ออกมาไม่ชัดเจน สุดท้ายครูจึงต้องช่วยจับนิ้วเพื่อให้ลงน้ำหนักมากขึ้้น เส้นจึงคมชัดมากขึ้นด้วย เมื่องานนี้เสร็จแล้ว ก็ได้ผ้าเช็ดหน้าลวดลายน่ารักไปใช้อีกหนึ่งผืน ^^

การทำโบว์ติดผมในภาพข้างบนนี้ เป็นงานของน้องพัชรจัง ขณะนั้นอยู่ชั้นป.4 รร.มารดาอุปถัมภ์ จ.แพร่ ทั้งนี้ด้วยเวลาอันจำกัด ทำให้ครูไม่สามารถจะสอนน้องเรื่องการเย็บได้ทัน เพราะหากฝึกเย็บไปด้วย จะไม่สามารถสรุปงานให้เสร็จได้ในเวลาที่มีอยู่ การเย็บและประกอบส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันจึงต้องเป็นหน้าที่ของครูเอง แต่น้องได้ลองเป็นดีไซเนอร์ ด้วยการเลือกจับคู่สีและเนื้อสัมผัสของริบบิ้น รวมทั้งเลือกลูกปัดที่จะใช้ตกแต่ง งานนี้จึงเป็นการทำงานร่วมกันของครูและลูกศิษย์ ที่เป็นประสบการณ์น่าสนุกอีกครั้งหนึ่ง ^^

ผู้เขียนจะยินดีมาก หากไอเดียต่างๆ ที่นำเสนอมานี้เป็นประโยชน์กับผู้อ่านที่ต้องการปลูกฝังเรื่องการใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ให้แก่ลูกหลาน คงจะดีไม่น้อยหากครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันในการทำงานศิลปะบนผืนผ้า ซึ่งเด็กๆ สามารถนำชิ้นงานไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และเป็นการเพิ่มมูลค่ารวมทั้งเติมความเก๋ไก๋แปลกใหม่ในการแต่งกาย โดยเฉพาะกับเด็กบางคนที่มีใจรักเรื่องแฟชั่นและการออกแบบ ก็จะเป็นการปูพื้นฐานทางอาชีพในอนาคตให้พวกเขาได้อย่างดี