ศิลปะนั้นคงอยู่แค่ชั่วครั้งคราว เหมือนรอยเท้าบนผืนทราย ที่ไม่นานเกลียวคลื่นก็ซัดสาดมันจางหายไป ชื่อของศิลปินคนไหนก็ไม่มีวันได้จารึกในใจคนไปชั่วกัปชั่วกัลป์ เพราะเวลาบนโลกนี้ยาวนานเกินกว่ามนุษย์ธรรมดาคนใดจะสามารถจินตนาการถึง เมื่อผ่านไปหลายยุคหลายสมัยเข้า ผู้คนก็ย่อมลืมเลือนไปเสีย ศิลปินผู้ยิ่งยงคนใดก็ไม่อาจต่อต้านกระแสธารของเวลาไปได้
ถ้าจะว่าไปแล้ว ศิลปะก็คงเป็นการหางานให้ใจทำในช่วงชีวิตนี้ เพื่อไม่ให้การอยู่บนโลกนี้มันน่าเบื่อหน่ายเกินไป ผลงานที่เป็นวัตถุนั้นไม่นานคงแตกสลายไปตามกาลเวลา แต่ผลงานทางใจนั้นยังพอจะเก็บไว้เป็นเครื่องจรรโลงจิตวิญญาณได้บ้าง ว่าเกิดมาเป็นคนกับเขาทั้งที ชาตินี้ยังมีอะไรที่ทำแล้วรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า เพราะการวาดรูปนั้นมันใช้แต่มือและตาเสียเมื่อไหร่ มันต้องใช้ความอดทนต่ออุปสรรคทางใจต่างๆ มากมายกว่าจะทำงานให้สำเร็จลุล่วงไปได้ รูปหนึ่งก็คือการเดินทางครั้งหนึ่ง ที่ต้องพบเจออะไรต่างๆ ระหว่างทาง บางอย่างชวนให้ท้อและคิดจะวางมือไปเสีย แต่คงเป็นความรักในความงามนั่นกระมังที่ยังผลักดันให้ทำต่อไป เพราะอยากจะได้เห็นบทสรุปของชิ้นงานที่ตัวเองทำขึ้นมา และหวังจะให้เกิดความสุขความรื่นรมย์ขึ้นในใจของผู้ชม วัตถุทางศิลปะใดๆ คงไม่ใช่แค่สิ่งที่จะผุพังไปตามกาลเวลาเท่านั้น แต่อาจเป็นเครื่องสะท้อนความงามหลายๆ อย่างในใจคนได้เหมือนกัน
ใส่ความเห็น